1. ข้อใดสอดคล้องกับสัจธรรมที่ปรากฎในคำประพันธ์ต่อไปนี้มากที่สุด ภาษิตแต่เก่าก่อนท่านสอนชี้ ชั่วเจ็ดทีดีเจ็ดหนปนกันอยู่ถูกแล้วผิดพลาดหลงจงตรองดู มืดแล้วแจ้งมีอยู่เป็นคู่กัน1) เกิดมามนุษย์ปุถุชน ความทุกข์มิได้พ้นจนสักหน้า 2) อันกำเนิดเกิดมาในหล้าโลก สุขกับโศกมิได้สิ้นอย่าสงสัย 3) อันบ่วงกรรมทำไว้ในปางหลัง เป็นพืชยังปางนี้ให้มีผล 4) อนัตตาใช่ว่าของแท้ คงก็แต่บาปบุญเจ้าคุณเอ๋ย
|
2. ข้อใดไม่สะท้อนความคิดทางพระพุทธศาสนา1) แม้นกลับชาติเกิดใหม่เป็นกายคน ชื่อว่าจนแล้วจงจากกำจัดไกล 2) เคยสร้างบาปเร่งทำบุญมาลบล้าง กุศลสร้างมาช่วยอำนวยผล 3) ฉันเกิดมาชาตินี้ก็มีกรรม แสนระยำยุบยับด้วยอับจน 4) ใครปองร้ายก็อย่าร้ายสนองตอบ ใครคิดชอบก็ควรรักสมัครสมาน
|
3. ข้อใดไม่แสดงคุณธรรม1) คนในเมืองสุโขทัยนี้มักทาน มักทรงศีล มักโอยทาน 2) ขุนสามชนขับม้าหัวขวา ขุนสามชนเกลื่อนเข้าไพร่ฟ้าหน้าใสพ่อกู หนีญญ่ายพ่ายจแจ๋ (น) 3) กูได้ตัวเนื้อตัวปลา กูเอามาแก่พ่อกู กูได้หมากส้มหมากหวานอันใดกินอร่อยดี กูเอามาแก่พ่อกู 4) พ่อกูตายยังพี่กู กูพร่ำบำเรอแก่พี่กูดังกูบำเรอแก่พ่อกู พี่กูตายจึงได้เมืองแก่กูทั้งกลม
|
4. ข้อใดเป็นสารสำคัญของคำประพันธ์ต่อไปนี้ เปรมปรีดิ์ที่ไผ่ฟ้อน ลมดงปลิวลิ่วใบลอยลง ต่อหน้าไตรลักษณ์นั่นคือมง- คลคู่ คิดนามองทั่วถึงพึงกล้า แจ่มจ้าพุทธธรรม1) อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เป็นมงคลชีวิต 2) ธรรมชาติแสดงให้เห็นสัจธรรมในพระพุทธศาสนา 3) ใบไผ่ที่ร่วงหล่นแสดงให้เห็นความเป็นอนิจจัง 4) ผู้เห็นไตรลักษณ์คือผู้มีความสุขตามธรรมชาติ
|
5. ข้อใดเป็นจุดมุ่งหมายของกวีตามคำประพันธ์ต่อไปนี้ และใจเจ้าจักเป็นเช่นสายน้ำ ใสเย็นฉ่ำชื่นแล้วไหลแผ่วผ่านเพื่อเลี้ยงชีพชโลมไล้ให้เบิกบาน เพียงพ้องพานผิวแผ่วแล้วผ่านเลย1) เสนอแนวคิดในการทำจิตใจให้สงบเย็น 2) เสนอแนวคิดเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตอย่างมีสติ 3) เสนอแนวคิดเกี่ยวกับธรรมชาติที่เป็นคุณต่อมนุษย์ 4) เสนอแนวคิดเกี่ยวกับธรรมชาติที่แปรเปลี่ยนตลอดเวลา
|
ต้องการเฉลยข้อสอบ โปรดเข้าระบบสมาชิก
|
|
|