1. ข้อใดมีน้ำเสียงต่างจากข้ออื่น1) จากแรงมาเป็นรวง ระยะทางนั้นเหยียดยาวจากรวงเป็นเม็ดพราว ล้วนทุกข์ยากลำเค็ญเข็ญ 2) สองมือเฮามีแฮง เสียงเฮาแย้งมีคนยินสงสารอีศานสิ้น อย่าซุด, สู้ด้วยสองแขน 3) โซ่ประตูตรึงผูกถูกกระชาก เสียงแห่งความทุกข์ยากก็ยิ่งใหญ่สว่างวาบแปลบพร่ามาไรไร ก็รู้ได้ว่าทางยังพอมี 4) ลมประสานเสียงแคนว่าแค่นแค้น เปิปข้าวทุกคราวแค่นความขื่นขมเหงื่อภูรินตากูแล้งน้ำแห้งตรม แม้ทุกข์ถมจักหยัดยืนคืนค่าคน
|
2. ข้อใดสะท้อนความรู้สึกของผู้แต่งคำประพันธ์ต่อไปนี้ได้ตรงที่สุดเมื่อเมือคนคั่งคักด้วยคนป่า คนดีก็ด้อยคำเหมือนกรวดหินเหมือนสัตว์ป่าสร้างป่าไว้หากิน สัตว์เมืองก็ต้องสิ้นวิสัยเมือง1) โกรธแค้น 2) สมเพช 3) ท้อแท้ 4) อนาถใจ
|
3. ข้อใดสะท้อนทรรศนะของผู้พูดข้อความต่อไปนี้แม้นว่าระดูจรกา งามเหมือนวิหยาสะกำนี้จะมิได้ร้อนรนด้วยปนศักดิ์ น่ารักรูปทรงส่งศรี1) ไม่ถือเรื่องชั้นวรรณะ 2) ไม่ถือเรื่องยศศักดิ์ 3) รูปสมบัติสำคัญกว่าฐานะ 4) รูปสมบัติแสดงให้เห็นคุณความดีของคน
|
4. ข้อใดเป็นจุดมุ่งหมายของกวีตามคำประพันธ์ต่อไปนี้ และใจเจ้าจักเป็นเช่นสายน้ำ ใสเย็นฉ่ำชื่นแล้วไหลแผ่วผ่านเพื่อเลี้ยงชีพชโลมไล้ให้เบิกบาน เพียงพ้องพานผิวแผ่วแล้วผ่านเลย1) เสนอแนวคิดในการทำจิตใจให้สงบเย็น 2) เสนอแนวคิดเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตอย่างมีสติ 3) เสนอแนวคิดเกี่ยวกับธรรมชาติที่เป็นคุณต่อมนุษย์ 4) เสนอแนวคิดเกี่ยวกับธรรมชาติที่แปรเปลี่ยนตลอดเวลา
|
5. สารในข้อใดไม่เป็นคติในการเลือกคบคน1) สกุลหงส์พงศ์ประยูรสกุลสูง อย่าฝ่าฝูงกาพาลหวานปนขมสกุลกาพาอับให้กลับจม อย่านิยมยินดีจะมีคาว 2) อันคนดีมีศีลสัตย์สันทัดเที่ยง ช่วยชุบเลี้ยงชูเชิดให้เฉิดฉายเอาไว้ใช้ใกล้ชิดไม่คิดร้าย เขารักตายด้วยได้ด้วยใจตรง 3) สตรีหึงหนึ่งแพศยาหญิง 4)
|
ต้องการเฉลยข้อสอบ โปรดเข้าระบบสมาชิก
|
|