1. ข้อใดไม่ใช่คำพูดที่แสดงความรักศักดิ์ศรี1) จะสงครามตามตีติดพัน ไปกว่าชีวันจะบรรลัย 2) ผิดก็ทำสงครามดูตามที  เคราะห์ดีก็จะได้ดังใฝ่ฝัน 3) จำจะไปต้านต่อรอฤทธิ์  ถึงม้วยมิดมิให้ใครดูหมิ่น 4) แต่ผู้เดียวจะเคี่ยวสงครามไป จะยากเย็นเป็นกระไรก็ตามที
   | 
2. คำที่ขีดเส้นใต้ในข้อใดเป็นคำสันธาน1) โรงพยาบาลนี้ตรวจรักษาโรคด้วยเครื่องมือทันสมัย 2) โรงพยาบาลนี้ตรวจรักษาโรคด้วยเครื่องมือทันสมัย 3) ใครๆ ก็อยากให้เธอไปเที่ยวด้วยเพราะเป็นคนคุยสนุก 4) ทางราชการจะปรับปรุงวิธีการเก็บภาษีด้วยปรากฏว่ามีผู้เลี่ยงภาษีกันมาก
   | 
3. ข้อใดเป็นการแสดงทรรศนะ1) การเรียนกวดวิชาเป็นค่านิยมที่เกิดมานานแล้ว เด็กไทยจำนวนมากรู้สึกว่าการเรียนกวดวิชาเป็นความจำเป็นอย่างหนึ่ง 2) ไม่ว่าจะเกิดความวิตกกังวลหรือกลัวสักเพียงใด วันสอบจะต้องมาถึง ไม่ว่าจะพร้อมหรือไม่ก็จะต้องเข้าห้องสอบ 3) ความรู้จะเกิดขึ้นได้ต้องเกิดจากตัวนักเรียนเอง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่โรงเรียนจะต้องมีห้องสมุดที่ดีไว้คอยบริการ 4) เด็กไทยเรานั้นเรียนรู้ที่จะท่องจำแต่ไม่สามารถดัดแปลงความรู้ที่ท่องจำนั้นมาใช้กับสังคมยุคใหม่ได้
   | 
4. ข้อใดไม่แสดงเหตุผล1) เวลาล่วงรีบรุดสุดจะนับ วัยหนุ่มสาวหายวับไปกับตา 2) คำเผ็ดร้อนเผาใจยิ่งไฟเลีย พาให้เพลียชอกช้ำระกำทรวง 3) วิทยาศาสตร์เจริญเดินก้าวรุด มวลมนุษย์ยังโทโสและโมหันต์ 4) มีศรัทธาเป็นเสบียงหล่อเลี้ยงจิต มีปัญญานำชีวิตไม่ผิดผัน
   | 
5. ข้อใดเป็นแนวคิดของคำประพันธ์ต่อไปนี้    "ไป่ฟังคนพูดฟุ้ง ฟั่นเฝือ   เท็จและจริงจานเจือ คละเคล้า  คือมีดเที่ยวกรีดเถือ ท่านทั่ว ไปนา ฟังจะพาพลอยเข้า พวกเพ้อรังควาน"1) ควรฟังผู้มีศิลปะในการพูด 2) ควรมีวิจารณญาณในการฟัง 3) ไม่ควรทำร้ายผู้อื่นด้วยคำพูด 4) ไม่ควรฟังคนที่พูดเพ้อเจ้อ
   | 
 ต้องการเฉลยข้อสอบ โปรดเข้าระบบสมาชิก 
 | 
| 
 |