1. ". น้องบอกว่าลืมไม่ได้ใจมันทุกข์ เพราะน้องซุกใจเศร้าเฝ้าไห้หวน อยากให้น้องคิดใหม่ใคร่ชักชวน ขึ้นทางด่วนเดินจากซากอาวรณ์" คำว่า ไห้หวน ในคำประพันธ์ข้างต้น ใช้คำในข้อใดแทนได้ โดยใจความสำคัญไม่เปลี่ยน1) คร่ำครวญ 2) รัญจวน 3) กำสรวล 4) หอมหวน
|
2. คำประพันธ์ใดแสดงความเชื่อของสังคมไทย1) สายดิ่งแซมสลับต้นตับเต่า เป็นเหล่าเหล่าแลรายทั้งซ้ายขวา กระจับจอกดอกบัวบานผกา ดาษดาขาวดั่งดาวพราย 2) งิ้วนรกสิบหกองคุลีแหลม ดังขวากแซมเสี้ยมแซกแตกไสว ใครทำชู้คู่ท่านครั้นบรรลัย ก็ต้องไปปีนต้นงิ้วน่าขนพอง 3) อยู่กลางทุ่งรุ่งโรจน์สันโดษเด่น เป็นที่เล่นนาวาคงคาไหล ที่พื้นลานฐานปัทม์ถัดบันได คงคาลัยล้อมรอบเป็นขอบคัน 4) แสนวิตกอกเอ๋ยมาอ้างว้าง ในทุ่งกว้างเห็นแต่แขมแซมสลอน จนดึกดาวพราวพร่างกลางอัมพร กระเรียนร่อนร้องก้องเมื่อสองยาม
|
3. คำพูดในข้อใดประทับใจผู้ฟังน้อยที่สุด1) ขอแสดงความยินดีที่ท่านได้รับทุนไปศึกษาต่างประเทศ 2) ได้สองขั้นแล้วเมื่อไหร่จะเลี้ยงล่ะ 3) เสียใจด้วยนะเพื่อนที่ต้องสูญเสียคุณแม่ไปอย่างกะทันหัน 4) คนที่เจ้านายรักก็อย่างนี้แหละทำอะไรก็ดีไปหมด
|
4. บุคคลใดรับสารด้วยการฟังได้อย่างสัมฤทธิ์ผล1) ส้มเป็นที่รักของเพื่อน แม้ว่าเพื่อนจะต่อว่าไม่พอใจเรื่องใด ส้มก็ยิ้มรับทุกอารมณ์ของเพื่อนได้เสมอ 2) สวยเป็นที่ชื่นชมของเพื่อน เพราะเพื่อนสั่งอะไรสวยก็ไม่เคยขัดข้อง จะเชื่อฟังและปฏิบัติตามเสมอ 3) ปลาไม่ค่อยมีใครสนใจ เพราะเวลาใครพูดอะไร เธอก็จะฟังอย่างตั้งใจ แต่ไม่เคยปฏิบัติสักครั้ง 4) ปุ่น ไม่ค่อยสนใจคนที่กล่าวตักเตือน เพราะรู้สึกว่าเสียเวลาและคิดเสมอว่าคนเหล่านี้คอยแต่อิจฉา
|
5. หากนักเรียนได้รับมอบหมายให้พูดต้อนรับบุคคลที่มาเยี่ยมชมโรงเรียน ข้อใดไม่ใช่ประเด็นสำคัญของเนื้อหาที่จะต้องนำเสนอ1) ประวัติความเป็นมาของโรงเรียน 2) ความรู้สึกยินดีต่อการเข้าเยี่ยมชม 3) การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียน 4) จุดเด่นของการพัฒนาโรงเรียนที่ผ่านมา
|
ต้องการเฉลยข้อสอบ โปรดเข้าระบบสมาชิก
|
|