1. คำประพันธ์ใดแสดงความเชื่อของสังคมไทย1) สายดิ่งแซมสลับต้นตับเต่า เป็นเหล่าเหล่าแลรายทั้งซ้ายขวา กระจับจอกดอกบัวบานผกา ดาษดาขาวดั่งดาวพราย 2) งิ้วนรกสิบหกองคุลีแหลม ดังขวากแซมเสี้ยมแซกแตกไสว ใครทำชู้คู่ท่านครั้นบรรลัย ก็ต้องไปปีนต้นงิ้วน่าขนพอง 3) อยู่กลางทุ่งรุ่งโรจน์สันโดษเด่น เป็นที่เล่นนาวาคงคาไหล ที่พื้นลานฐานปัทม์ถัดบันได คงคาลัยล้อมรอบเป็นขอบคัน 4) แสนวิตกอกเอ๋ยมาอ้างว้าง ในทุ่งกว้างเห็นแต่แขมแซมสลอน จนดึกดาวพราวพร่างกลางอัมพร กระเรียนร่อนร้องก้องเมื่อสองยาม
|
2. คำประพันธ์ในข้อใดเป็นตัวอย่างที่น่ายกย่อง "พันท้ายตกประหม่าสิ้น สติคิด โดดจากเรือทูลอุทิศ โทษร้อง พันท้ายนรสิงห์ผิด บทฆ่า เสียเทอญ หัวกับโขนเรือต้อง คู่เส้นทำศาล"1) ความเสียสละเพื่อคนรัก 2) ความยุติธรรมของทหาร 3) ความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว 4) ความผิดต้องได้รับการให้อภัยเสมอ
|
3. ". น้องบอกว่าลืมไม่ได้ใจมันทุกข์ เพราะน้องซุกใจเศร้าเฝ้าไห้หวน อยากให้น้องคิดใหม่ใคร่ชักชวน ขึ้นทางด่วนเดินจากซากอาวรณ์" คำว่า ไห้หวน ในคำประพันธ์ข้างต้น ใช้คำในข้อใดแทนได้ โดยใจความสำคัญไม่เปลี่ยน1) คร่ำครวญ 2) รัญจวน 3) กำสรวล 4) หอมหวน
|
4. ข้อใดไม่ใช่หลักปฏิบัติการพูดที่เหมาะสม1) ผู้พูดควรเลือกเรื่องที่ตนเองมีความรู้ ถนัดและสนใจในการพูด 2) การวิเคราะห์ผู้ฟัง เป็นขั้นตอนสำคัญในการพูดที่ไม่ควรละเลย 3) ผู้พูดที่ไม่เตรียมเนื้อหาแล้วพูดได้ ถือว่าเป็นอัจฉริยะทางการพูด 4) การแต่งกายเป็นสิ่งหนึ่งในการเสริมบุคลิกภาพให้ผู้พูดโดดเด่น
|
5. เพลงกล่อมเด็กในข้อใดแสดงถึงความรักของแม่ที่มีต่อลูกได้ชัดเจนที่สุด1) นอนเสียเถิด ขวัญเจ้าจะเกิดในดอกบัว แม่เลี้ยงเจ้าไว้ เพื่อจะได้เป็นเพื่อนตัว 2) เนื้อเอ๋ยเนื้ออุ่นเอย เนื้อละมุนคือสำลี แม่ไม่ให้ใครต้อง แม่กลัวเจ้าจะหมองศรี 3) เนื้อเอ๋ยเนื้ออ่อนเอย ไม่หลับไม่นอนอ้อนแม่อยู่อาลัย พี่เลี้ยงนางนมอยู่ไหน ไม่มาไกวให้เจ้านอน 4) นกเขาเอ๋ย ขันตั้งแต่เช้าไปจวนเย็น ขันให้ดังแม่จะฟังเล่น เสียงเย็นๆลูกน้อยกลอยใจ
|
ต้องการเฉลยข้อสอบ โปรดเข้าระบบสมาชิก
|
|