ข้อสอบใบขับขี่ 50 ข้อ หมวด กฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก

คำชี้แจง

- ถ้าไม่กรอกทั้งชื่อ และนามสกุลของผู้ทำข้อสอบ ระบบจะไม่ตรวจข้อสอบให้

- ส่วนนี้จะไม่มีการบันทึกผลสอบ หากต้องการบันทึกโปรดสมัครสมาชิก

- ถ้าทำข้อสอบไม่ครบ ระบบจะไม่ตรวจข้อสอบให้

- ผู้ทำข้อสอบจะมีเวลาในการทำข้อสอบเพียง 30 นาที หากเกินเวลา ระบบจะไม่ตรวจข้อสอบให้

- เกณฑ์ตัดสินผ่านการทดสอบอยู่ที่ร้อยละ 90 หรือ 45 ข้อขึ้นไป

ส่วนนี้จะไม่มีการบันทึกผลสอบ และแสดงเฉลยแบบทดสอบ หากต้องการบันทึก และรายงานการทำแบบทดสอบ โปรดสมัครสมาชิก

ข้อสอบชุดนี้จำนวน 50 ข้อ หากต้องการเพิ่มจำนวนข้อสอบ คลิก ทำแบบทดสอบออนไลน์

1. ผู้ขับขี่ต้องการจะเลี้ยวซ้ายต้องขับรถในช่องเดินรถด้านซ้ายก่อนถึงทางเลี้ยวกี่เมตร ไม่น้อยกว่า 15 เมตร ไม่น้อยกว่า 20 เมตร ไม่น้อยกว่า 25 เมตร ไม่น้อยกว่า 30 เมตร
2. การให้สัญญาณด้วยแขน โดยผู้ขับขี่ยื่นแขนขวาตรงออกไปนอกตัวรถเสมอระดับไหล่และโบกมือขึ้นลงหลายครั้ง.หมายถึงผู้ขับขี่นั้นต้องการอะไร หยุดรถ เลี้ยวขวา จะลดความเร็วของรถ จอดรถ
3. ก่อนเลี้ยวรถต้องเข้าช่องทางที่จะเลี้ยวและเปิดไฟเลี้ยวก่อนเลี้ยวรถไม่น้อยกว่ากี่เมตร 3 เมตร 30 เมตร 10 เมตร 15 เมตร
4. นอกเขตกรุงเทพ เขตเมืองพัทยา หรือเขตเทศบาล ต้องขับรถด้วยความเร็วเท่าไร ไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่เกิน 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
5. ในช่องทางเดินรถตั้งแต่สองช่องทางขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ต้องปฏิบัติอย่างไร ต้องขับรถชิดด้านขวาสุด ต้องขับรถชิดด้านซ้ายสุด ต้องขับรถคล่อมเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ ต้องขับรถอยู่ในช่องทางที่ให้ขับตรงไป
6. เมื่อจะเปลี่ยนช่องทางหรือแซงรถทุกครั้งต้องปฏิบัติอย่างไร รีบเปลี่ยนช่องทางโดยเร็ว ต้องให้สัญญาณไฟหรือสัญญาณแตร แซงขึ้นหน้าแล้วเหยียบเบรกทันที รีบเร่งเครื่องแซงโดยเร็ว
7. ผู้ขับรถที่ดื่มสุราเมื่อวัดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจจะต้องไม่เกินเท่าใด ไม่เกิน 60 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น ไม่เกิน 70 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น ไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น ไม่เกิน 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น
8. การขับรถผ่านทางร่วมทางแยกต้องปฏิบัติอย่างไร ปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจรหรือกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เมื่อพบป้ายเตือนทางร่วมทางแยกให้ขับรถด้วยความเร็วปกติ หากไม่มีสัญญาณไฟจราจร ให้รถคันที่ใหญ่กว่าผ่านทางร่วมทางแยกไปก่อน เมื่อพบป้ายเตือนสัญญาณไฟบริเวณทางร่วมทางแยกให้ขับรถไปตามปกติ
9. รถในข้อใด ห้ามนำมาใช้ในทาง รถที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง รถที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนของทางราชการกำหนด รถที่จดทะเบียนและเสียภาษีแล้ว รถที่อุปกรณ์ส่วนควบครบถ้วน
10. บริเวณใดแซงได้ ทางร่วมทางแยก สะพานเดินรถทางเดียว ทางโค้งรัศมีแคบ บนพื้นทางที่มีเครื่องหมายจราจรให้แซงได้
11. บริเวณใดห้ามแซง ทางตรง ทางที่ปลอดภัย ทางโล่ง ทางโค้งรัศมีแคบ
12. การให้สัญญาณด้วยแขน โดยผู้ขับขี่ยื่นแขนขวาตรงออกไปนอกตัวรถเสมอระดับไหล่และโบกมือขึ้นลงหลายครั้ง.หมายถึงผู้ขับขี่นั้นต้องการอะไร หยุดรถ เลี้ยวขวา จะลดความเร็วของรถ จอดรถ
13. ผู้ขับขี่ต้องการกลับรถต้องปฏิบัติอย่างไร ขับรถช่องทางไหนก็ได้ ดูป้ายจราจรที่อนุญาตให้กลับรถและเข้าช่องทางให้ถูกต้อง เข้าช่องทางที่มีลุกศรบนพื้นถนนให้ตรงไป กลับรถที่บริเวณเส้นทะแยงเหลือง
14. รถในข้อใด ห้ามนำมาใช้ในทาง รถที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง รถที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนของทางราชการกำหนด รถที่จดทะเบียนและเสียภาษีแล้ว รถที่อุปกรณ์ส่วนควบครบถ้วน
15. ผู้ขับขี่ต้องขับรถในทางเดินรถด้านซ้าย ยกเว้นกรณีใดสามารถเดินรถทางขวาหรือ ล้ำกึ่งกลางของทางเดินรถได้ ไม่มีรถสวนทางมา ทางเดินรถกว้างมาก ด้านซ้ายของทางเดินรถมีสิ่งกีดขวาง ทางเดินรถมีน้ำท่วมขัง
16. ผู้ขับขี่ต้องการจะเลี้ยวซ้ายต้องขับรถในช่องเดินรถด้านซ้ายก่อนถึงทางเลี้ยวกี่เมตร ไม่น้อยกว่า 15 เมตร ไม่น้อยกว่า 20 เมตร ไม่น้อยกว่า 25 เมตร ไม่น้อยกว่า 30 เมตร
17. ข้อใดเปิดไฟฉุกเฉินได้ถูกต้อง รถเสียหรือรถเกิดอุบัติเหตุ เปิดได้ตลอดเวลา มีหมอก ผ่านทางแยก
18. ห้ามมิให้ผู้ขับขี่รถแซงเพื่อขึ้นหน้ารถคันอื่นขณะที่มีหมอก.ฝุ่น ฝน หรือควัน จนไม่อาจเห็นทางข้างหน้าได้ในระยะ เท่าใด 60 เมตร 90 เมตร 70 เมตร 80 เมตร
19. ในการบรรทุกสิ่งของ.ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร บรรทุกได้กว้างกว่าความกว้างของตัวรถข้างละ 1 เมตร บรรทุกยื่นพ้นตัวรถด้านหลังไม่เกิน 2.50 เมตร บรรทุกสูงโดยวัดจากสิ่งของที่บรรทุกได้เกิน 5 เมตร บรรทุกยื่นพ้นตัวรถด้านหน้าไม่เกิน 2.50 เมตร
20. ผู้ใดได้รับยกเว้นไม่ต้องสวมหมวกนิรภัยขณะโดยสารรถจักรยานยนต์ ภิกษุ สามเณร คนโดยสาร เด็ก คนขับรถ
21. ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ห่างจากรถคันหน้าเท่าไร ในระยะที่จะสามารถหยุดรถได้โดยปลอดภัยเมื่อมีความจำเป็น ไม่น้อยกว่า 2 เมตร ไม่น้อยกว่า 1 เมตร ไม่น้อยกว่า 3 เมตร
22. บริเวณใดห้ามขับรถแซงรถคันอื่น ทางโค้งรัศมีแคบ ในกรณีที่ทางเดินรถด้านซ้ายมีสิ่งกีดขวาง 150 เมตร จากทางร่วมทางแยก แซงด้านซ้ายในขณะที่มีรถรอเลี้ยวขวา
23. ผู้ขับขี่ต้องการเลี้ยวรถต้องปฏิบัติอย่างไร ชะลอรถและเปิดไฟเลี้ยวก่อนถึงทางเลี้ยวไม่น้อยกว่า 30 เมตร เปิดไฟเลี้ยวก่อนถึงทางเลี้ยว 20 เมตร หยุดรถเพื่อเตรียมตัวเลี้ยว เร่งความเร็วก่อนเลี้ยว
24. การขับรถแซงรถคันหน้าต้องแซงด้านขวามือ ยกเว้นกรณีใดที่สามารถแซงด้านซ้ายมือได้ เมื่อรถที่จะถูกแซงกำลังเลี้ยวขวา หรือให้สัญญาณว่าจะเลี้ยวขวา แซงรถคันอื่นทางด้านซ้ายในทางเดินรถช่องทางเดียว แซงรถคันอื่นในช่องทางขวาของรถที่ถูกแซง แซงรถคันอื่นทางด้านซ้ายขณะรถวิ่งบนสะพาน
25. บริเวณใดใช้สัญญาณเสียงแตรได้ โรงเรียน สถานที่ราชการ สวนสาธารณะ โรงพยาบาล
26. ข้อใดปฏิบัติถูกต้อง รถจักรยานยนต์ต้องขับในช่องเดินรถด้านซ้ายสุด รถบรรทุกคนโดยสารต้องขับในช่องเดินรถด้านขวาสุด รถบรรทุกสิ่งของต้องขับในช่องเดินรถด้านขวาสุด การเปลี่ยนช่องเดินรถไปทางด้านขวาหรือซ้ายไม่ต้องดูกระจกด้านซ้ายหรือขวา
27. ห้ามมิให้ผู้ขับขี่รถแซงเพื่อขึ้นหน้ารถคันอื่นขณะที่มีหมอก.ฝุ่น ฝน หรือควัน จนไม่อาจเห็นทางข้างหน้าได้ในระยะ เท่าใด 60 เมตร 90 เมตร 70 เมตร 80 เมตร
28. ในช่องทางเดินรถตั้งแต่สองช่องทางขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ต้องปฏิบัติอย่างไร ต้องขับรถชิดด้านขวาสุด ต้องขับรถชิดด้านซ้ายสุด ต้องขับรถคล่อมเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ ต้องขับรถอยู่ในช่องทางที่ให้ขับตรงไป
29. ในการบรรทุกสิ่งของ.ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร บรรทุกได้กว้างกว่าความกว้างของตัวรถข้างละ 1 เมตร บรรทุกยื่นพ้นตัวรถด้านหลังไม่เกิน 2.50 เมตร บรรทุกสูงโดยวัดจากสิ่งของที่บรรทุกได้เกิน 5 เมตร บรรทุกยื่นพ้นตัวรถด้านหน้าไม่เกิน 2.50 เมตร
30. ในการให้สัญญาณไฟเลี้ยว จะต้องให้ผู้ขับรถคันอื่นเห็นได้ในระยะเท่าไร ไม่น้อยกว่า 10 เมตร ไม่น้อยกว่า 15 เมตร ไม่น้อยกว่า 60 เมตร ไม่น้อยกว่า 30 เมตร
31. การขับรถผ่านทางร่วมทางแยกที่มีสัญญาณจราจรไฟกระพริบสีเหลือง.ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร ลดความเร็วของรถลงและผ่านทางเดินรถนั้นไปด้วยความระมัดระวัง หยุดรถหลังเส้นให้รถหยุด เมื่อเห็นว่าปลอดภัยและไม่เป็นการกีดขวางการจราจรจึงขับรถต่อไปด้วยความระมัดระวัง จอดรถ เพิ่มความเร็วของรถและผ่านทางเดินรถนั้นไปโดยเร็ว
32. การขับรถผ่านทางร่วมทางแยกที่มีสัญญาณจราจรไฟกระพริบสีเหลือง.ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร ลดความเร็วของรถลงและผ่านทางเดินรถนั้นไปด้วยความระมัดระวัง หยุดรถหลังเส้นให้รถหยุด เมื่อเห็นว่าปลอดภัยและไม่เป็นการกีดขวางการจราจรจึงขับรถต่อไปด้วยความระมัดระวัง จอดรถ เพิ่มความเร็วของรถและผ่านทางเดินรถนั้นไปโดยเร็ว
33. ผู้ใดไม่มีหน้าที่ให้สัญญาณจราจรตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก.พ.ศ.2522 ผู้ขับขี่รถยนต์ พนักงานจราจร ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ คนเดินเท้า
34. การขับรถตามข้อใดปฏิบัติได้ถูกต้อง ขับรถลักษณะผิดปกติวิสัย แซงรถในอุโมงค์ ขับรถในลักษณะกีดขวางการจราจร ขับรถเร็วไม่เกินอัตราที่กฎหมายกำหนด
35. การจอดรถต้องจอดให้ห่างจากขอบทางไม่เกินกี่เซนติเมตร ห่างไม่เกิน 35 เซนติเมตร ห่างไม่เกิน 30 เซนติเมตร ห่างไม่เกิน 25 เซนติเมตร ห่างไม่เกิน 40 เซนติเมตร
36. นอกเขตกรุงเทพ เขตเมืองพัทยา หรือเขตเทศบาล ต้องขับรถด้วยความเร็วเท่าไร ไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่เกิน 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
37. ในการให้สัญญาณไฟเลี้ยว จะต้องให้ผู้ขับรถคันอื่นเห็นได้ในระยะเท่าไร ไม่น้อยกว่า 10 เมตร ไม่น้อยกว่า 15 เมตร ไม่น้อยกว่า 60 เมตร ไม่น้อยกว่า 30 เมตร
38. ผู้ขับรถที่ดื่มสุราเมื่อวัดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจจะต้องไม่เกินเท่าใด ไม่เกิน 60 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น ไม่เกิน 70 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น ไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น ไม่เกิน 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น
39. เมื่อพนักงานจราจรยืนและเหยียดแขนซ้ายออกไปเสมอระดับไหล่ ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถมาจากทางด้านไหนของพนักงานจราจรจะต้องหยุดรถ ด้านข้าง ด้านหน้าและด้านหลัง ด้านหลัง ด้านหน้า
40. รถในข้อใดที่สามารถนำมาใช้ในทางได้ รถที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนของทางราชการกำหนด รถที่จดทะเบียนและเสียภาษีแล้ว รถที่ขาดต่อภาษี รถที่แจ้งเลิกใช้ตลอดไป
41. การขับรถแซงรถคันหน้าต้องแซงด้านขวามือ ยกเว้นกรณีใดที่สามารถแซงด้านซ้ายมือได้ เมื่อรถที่จะถูกแซงกำลังเลี้ยวขวา หรือให้สัญญาณว่าจะเลี้ยวขวา แซงรถคันอื่นทางด้านซ้ายในทางเดินรถช่องทางเดียว แซงรถคันอื่นในช่องทางขวาของรถที่ถูกแซง แซงรถคันอื่นทางด้านซ้ายขณะรถวิ่งบนสะพาน
42. ผู้ขับขี่ต้องการเลี้ยวรถต้องปฏิบัติอย่างไร ชะลอรถและเปิดไฟเลี้ยวก่อนถึงทางเลี้ยวไม่น้อยกว่า 30 เมตร เปิดไฟเลี้ยวก่อนถึงทางเลี้ยว 20 เมตร หยุดรถเพื่อเตรียมตัวเลี้ยว เร่งความเร็วก่อนเลี้ยว
43. ขณะขับขี่รถต้องเว้นระยะห่างรถคันหน้าเท่าใด ในระยะที่ปลอดภัย 13 เมตร 50 เมตร 3 ช่วงตัวรถ
44. เมื่อเกิดอุบัติเหตุผู้ขับขี่หลบหนีจะมีผลอย่างไร ไม่มีผล เพราะไม่ใช่ฝ่ายผิด ให้สันนิษฐานว่าผู้นั้นเป็นผู้กระทำผิด มีผลให้เป็นฝ่ายถูก จะได้รับการกันไว้เป็นพยาน
45. การหยุดรถบริเวณทางแยกผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร ยุดทับเส้นแนวหยุด หยุดหลังเส้นแนวหยุด หยุดเลยเส้นแนวหยุด หยุดเลยป้ายหยุด
46. การหยุดรถบริเวณทางแยกผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร ยุดทับเส้นแนวหยุด หยุดหลังเส้นแนวหยุด หยุดเลยเส้นแนวหยุด หยุดเลยป้ายหยุด
47. ขณะขับรถตรวจพบแอลกอฮอล์ในร่างกายเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดมีโทษอย่างไร จำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับตั้งแต่ 1,000 ถึง.50,000 บาท จำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับตั้งแต่ 5,000 ถึง.20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ปรับไม่เกิน 5,000 บาท ปรับไม่เกิน 10,000 บาท
48. สัญญาณเสียงแตรใช้ได้เมื่อใด ใช้ได้เมื่อรถคันหน้าขับช้า ใช้ได้ตามสะดวก ใช้ตลอดเวลา ใช้ได้เมื่อจำเป็นเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
49. รถในข้อใดที่สามารถนำมาใช้ในทางได้ รถที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนของทางราชการกำหนด รถที่จดทะเบียนและเสียภาษีแล้ว รถที่ขาดต่อภาษี รถที่แจ้งเลิกใช้ตลอดไป
50. ผู้ขับขี่ต้องเปิดไฟหน้าหรือไฟท้ายรถ ให้รถคันอื่นเห็นได้ในระยะไม่น้อยกว่าเท่าใด 150 เมตร 100 เมตร 60 เมตร 120 เมตร
ให้ตรวจสอบชื่อนามสกุลว่ากรอกครบหรือไหม่ พร้อมกับตรวจข้อสอบว่าเลือกทำครบทุกข้อหรือไม่ ไม่ครบไม่ตรวจนะครับ

แนะนำชุดข้อสอบ

1. แนวข้อสอบวิทยาศาสตร์ ประถมศึกษาปีที่ 4 ชุดที่ 1

2. แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง กีฬาแบดมินตัน

3. แบบทดสอบวิชาบาสเก็ตบอล

4. ข้อสอบ บรรจุครูผู้ช่วย วิชาเอก ปฐมวัย พร้อมเฉลย 50 ข้อ

นำแบบทดสอบไปติดที่เว็บของคุณ